เรื่องสั้นขนาดสั้น (Flash Fiction)
กลางทะเลปลอม เรื่องสั้นโดย อนุสรณ์ มาราสา
“เรารอดแล้ว” ปะพูดขึ้น ขณะผมกำลังประกอบแสงจากข้าวสาร ไม้จิ้มฟัน น้ำมันพืช ทดแทนเทียนไขในคืนไฟฟ้าดับ
น้ำท่วมสามวันแล้ว เพื่อนบ้านเดินลุยน้ำไปที่ศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นมัสยิดประจำหมู่บ้าน ปะบอกว่าบ้านเราอยู่บนเนินควนน้ำท่วมไม่ถึง ครั้นผ่านไปสามวันปะสารภาพว่าทายผิด น้ำท่วมหนนี้เหมือนอยู่กลางทะเลปลอม ปะอาจจะหมายถึงบ้านหลังเดียวของเราถูกล้อมด้วยมวลน้ำกระมัง
ผมกลับจากมหาวิทยาลัย จึงมีโอกาสผจญภัยกับปะกับม๊ะที่บ้านเต็ม ๆ จนเข้าวันที่สาม ผมใช้มือถือให้น้อยที่สุด เพราะได้ยินข่าวทางมือถือว่าทางการจะดับไฟฟ้า
ขณะนี้ชั้นล่างก็ท่วมเต็มไปหมด เราต้องอาศัยบนชั้นสอง หอบถังก๊าซ หม้อ ชามกัน จ้าละหวั่นตั้งแต่คืนที่สองนั่นแล้ว
ฝนตกหนักตั้งแต่เช้าถึงเย็น น้ำไม่มีทีท่าจะลด คืนนี้ไฟฟ้าดับ ข้าวสารหมด แบตเตอรี่มือถือก็ใกล้หมดต้องอาศัยโหมดประหยัดพลังงานประทังชีวิต
แวบหนึ่ง ผมเคยอ่านข่าวรัฐบาลมีงบประมาณแก้ปัญหาอุทกภัยนับแสนล้านบาท เงินมากมายเหล่านั้น ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน และได้ยินข่าวเป็นที่แน่ชัดว่า จังหวัดเราก็ได้รับ 2,300 ล้านไม่ใช่น้อย ๆ เขาไปทำอะไรบ้าง เขื่อนกั้นน้ำ ลอกคูคลอง หรือเรือพายเอาไว้สำรอง ผมเห็นแต่ขยันส่ง SMS เตือนภัยให้ใจหายใจคว่ำสามชั่วโมงครั้งเท่านั้น
เรือพายลำนั้นเข้ามาบริเวณหน้าบ้านไม้ชั้นครึ่งของเรา ผมเดินต้อนรับ โดยอาศัยแสงไฟที่ผมทำจากข้าวสาร ไม้จิ้มฟัน และน้ำมันพืช นำทางไม่ลำบากนัก
“มาเป็นคณะแรกเลยนะ” ปะพูดขึ้น
“ลุงพูดใหม่สักทีได้มั้ยครับ” ปะมีสีหน้างง ๆ ขณะยื่นมือเป็นรับถุงยังชีพที่มีข้าวสาร ปลา
กระป๋องตราระฆัง มาม่า น้ำเปล่าสามขวด
“พวกคุณเป็นคณะแรกที่เข้ามาช่วยครับ” ขณะที่ปะพูดย้ำประโยคเดิม เพื่อนอีกคนถ่ายรูปจากกล้องมือถือวาบ ๆ
“สมัยหน้าเลือกพรรคผมนะครับ” เขาพูดชัดคำ
ผมมองเห็นใบหน้าปะค่อย ๆ คลายความสงสัย เหมือนคนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ ที่จริงคนยื่นถุงยังชีพคือส.ส. สอบตกสมัยที่แล้ว เขาสังกัดพรรคคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เยาวชนผู้อยากได้ความเปลี่ยนแปลงยกย่องว่าคือความหวังใหม่กันเลยทีเดียว
ผมเดินตามหลังถุงยังชีพ เป็นความหวังในช่วงวิกฤติครอบครัวสามคนพ่อ แม่ลูก แต่ให้ตายเถอะ คำว่ากลางทะเลปลอมของปะรบกวนผมอีกครั้ง มันดังขึ้นพร้อมเสียงพายเรือค่อย ๆ หายไปกับสายน้ำอันมืดมิด .


